Table of Content

อดีตเปลี่ยนแปลงไม่ได้

Table of Content

...

เรื่องแต่ง ยาวไม่เกินห้านาที


หลังจากที่นาบิลเลิกกับภรรยามาได้หนึ่งปี ร่างกายของเขาก็ทรุดโทรมอย่างเห็นได้ชัด

เหตุผลในการหย่าร้างของเขากับเธอ คือการที่เขาไม่เคยเอาใจใส่ความรู้สึกของเธอเลย

เคติฟาเป็นลูกสาวของนาบิล หลังจากที่นาบิลกับภรรยาของเขาหย่าร้างกัน ศาลก็ตัดสินให้อำนาจของการเลี้ยงบุตรตกแก่มารดาแต่เพียงผู้เดียว ส่วนบิดานั้นศาลบังคับให้ร่วมค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตรอย่างเหมาะสม และให้เยี่ยมบุตรีได้เพียงแค่หนึ่งวันในสัปดาห์เท่านั้น

วันที่นาบิลจะเจอลูกสาวของเขาได้นั้น เขากับภรรยาตกลงกันว่าจะเป็นวันอาทิตย์

วันอาทิตย์แล้ว วันอาทิตย์เล่า นาบิลไม่เคยทิ้งอดีตของตัวเองไปได้เลย เคติฟาก็อายุได้เจ็ดปีแล้ว ทุกครั้งที่เขาได้เจอกับลูกสาวของตัวเองนั้นเป็นเหมือนกับวันที่เขาได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ เขาพาลูกสาวของเขาไปเที่ยวด้วยกันสองคนพ่อลูก กินข้าวด้วยกัน ให้ประสบการณ์ชีวิตแก่ลูกของเขา และเขาก็จะพร่ำสอนกับลูกสาวของตัวเองทุกครั้งว่า

“อย่าผิดพลาดแบบพ่อ”

แต่พอลูกสาวของเขากลับไปอยู่กับแม่ ชีวิตของเขาก็จะกลับไปย่ำแย่ลงอีกครั้งหนึ่ง

ภรรยาของเขา ซาฟิรา เป็นแม่ที่เคร่งครัด และต่างจากนาบิลโดยสิ้นเชิง เธอพยายามยัดเยียดให้เคติฟาร่ำเรียนในวิชาการ เธอต้องได้ที่หนึ่งในห้อง เธอต้องถูกกดดันนานัปการ นาบิลรู้เรื่องนี้ดีแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ อย่างน้อยที่สุดเขาก็ได้แค่พาลูกสาวของตัวเองเที่ยวตอนวันอาทิตย์

นาบิลเป็นคนที่เชื่อในพระเจ้า เขาพร่ำขอกับพระเจ้าเสมอว่าเขาอยากจะกลับไปแก้ไขอดีตให้ได้ กลับไปเอาใจใส่ความรู้สึกของภรรยามากกว่านี้ เขาอยากที่จะอยู่อย่างครอบครัวฉันท์พ่อแม่ลูกอีกครั้ง

วันแล้ววันเล่า ในที่สุด เช้าวันอาทิตย์ก็มาถึง

เขาแต่งตัวอย่างดีที่สุด เพื่อที่จะทำให้เคติฟาไม่รู้ว่าเขาขี้เหล้ามากเพียงใด แปรงฟัน อาบน้ำ (ซึ่งปกติไม่เคยทำ) และเตรียมขับรถออกไปรับลูกสาวที่บ้านของภรรยา

แต่ก่อนที่เขาจะก้าวออกประตูบ้าน ผู้หญิงคนหนึ่งก็เดินมาที่หน้าบ้านของเขา — นาบิลมองผู้หญิงคนนั้น เธอใส่เสื้อสีขาวทั้งตัว ดูเหมือนมาจากอนาคต ร่างกายของเธอก็ขาวเหมือนไม่เคยเจอแสงแดด มาพร้อมกับของที่คล้ายๆ กับกระดานแต่เป็นกระดานที่ดูล้ำสมัยมาก

“ไม่ทราบว่า นี่คุณนาบิลใช่ไหมคะ” เธอถามเขา

“ใช่ครับ” นาบิลตอบเธอไป

“คุณอยากกลับไปแก้ไขอดีตของตัวเองใช่ไหมคะ” เธอถามเขาต่อ

คำพูดเธอแทงใจดำนาบิลเป็นยิ่งนัก แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เธอน่าจะเป็นพวกต้มตุ๋นมากกว่า “คุณต้องการอะไรกันแน่ ถ้าอยากได้เงิน ผมคงไม่มีให้หรอกนะ”

“ฉันสามารถทำให้คุณกลับไปแก้ไขอดีตได้นะคะ” เธอบอกกับเขา เหมือนกับผู้ที่ให้ความหวัง “คุณเพียงแค่กดปุ่มบนหน้าจอนี้ แต่มีเงื่อนไขเดียวคือ คุณจะจำอะไรที่เกิดขึ้นตั้งแต่เวลาที่คุณย้อนกลับไปจนถึงตอนนี้ไม่ได้ค่ะ”

นาบิลรู้สึกเหยียดหยามนักต้มตุ๋นคนนี้มาก แต่ก็ไม่ได้ขับใส่ไล่ส่งอะไร คิดแค่ว่า คนพวกนี้น่าสงสาร ถ้ามีอะไรที่ให้ทำก็ลองทำดูโง่ๆ คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก

เขากดปุ่มนั้น


“คุณ อาหารเสร็จแล้วนะ”

นาบิลที่กำลังเมาเหล้าอย่างหนัก เดินเข้าไปที่โต๊ะอาหาร แล้วกวาดข้าวของทุกอย่างลงจากโต๊ะ

“กูไม่กิน”

เสร็จแล้วเขาก็เอาขวดเหล้าทุบลงบนโต๊ะ แล้วเดินเข้าหาภรรยา

แต่ก่อนที่เขาจะทำอะไรรุนแรงเหมือนกับที่เขาเคยทำจนชินนั้น เคติฟาก็โทรเรียกสายฉุกเฉินมาก่อน


หลังจากที่นาบิลเลิกกับภรรยามาได้หนึ่งปี ร่างกายของเขาก็ทรุดโทรมอย่างเห็นได้ชัด

เหตุผลในการหย่าร้างของเขากับเธอ คือการที่เขาไม่เคยเอาใจใส่ความรู้สึกของเธอเลย

เคติฟาเป็นลูกสาวของนาบิล หลังจากที่นาบิลกับภรรยาของเขาหย่าร้างกัน ศาลก็ตัดสินให้อำนาจของการเลี้ยงบุตรตกแก่มารดาแต่เพียงผู้เดียว ส่วนบิดานั้นศาลบังคับให้ร่วมค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตรอย่างเหมาะสม และให้เยี่ยมบุตรีได้เพียงแค่หนึ่งวันในสัปดาห์เท่านั้น

วันที่นาบิลจะเจอลูกสาวของเขาได้นั้น เขากับภรรยาตกลงกันว่าจะเป็นวันอาทิตย์

วันอาทิตย์แล้ว วันอาทิตย์เล่า นาบิลไม่เคยทิ้งอดีตของตัวเองไปได้เลย เคติฟาก็อายุได้เจ็ดปีแล้ว ทุกครั้งที่เขาได้เจอกับลูกสาวของตัวเองนั้นเป็นเหมือนกับวันที่เขาได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ เขาพาลูกสาวของเขาไปเที่ยวด้วยกันสองคนพ่อลูก กินข้าวด้วยกัน ให้ประสบการณ์ชีวิตแก่ลูกของเขา และเขาก็จะพร่ำสอนกับลูกสาวของตัวเองทุกครั้งว่า

“อย่าผิดพลาดแบบพ่อ”

แต่พอลูกสาวของเขากลับไปอยู่กับแม่ ชีวิตของเขาก็จะกลับไปย่ำแย่ลงอีกครั้งหนึ่ง

ภรรยาของเขา ซาฟิรา เป็นแม่ที่เคร่งครัด และต่างจากนาบิลโดยสิ้นเชิง เธอพยายามยัดเยียดให้เคติฟาร่ำเรียนในวิชาการ เธอต้องได้ที่หนึ่งในห้อง เธอต้องถูกกดดันนานัปการ นาบิลรู้เรื่องนี้ดีแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ อย่างน้อยที่สุดเขาก็ได้แค่พาลูกสาวของตัวเองเที่ยวตอนวันอาทิตย์

นาบิลเป็นคนที่เชื่อในพระเจ้า เขาพร่ำขอกับพระเจ้าเสมอว่าเขาอยากจะกลับไปแก้ไขอดีตให้ได้ กลับไปเอาใจใส่ความรู้สึกของภรรยามากกว่านี้ เขาอยากที่จะอยู่อย่างครอบครัวฉันท์พ่อแม่ลูกอีกครั้ง

วันแล้ววันเล่า ในที่สุด เช้าวันอาทิตย์ก็มาถึง

เขาแต่งตัวอย่างดีที่สุด เพื่อที่จะทำให้เคติฟาไม่รู้ว่าเขาขี้เหล้ามากเพียงใด แปรงฟัน อาบน้ำ (ซึ่งปกติไม่เคยทำ) และเตรียมขับรถออกไปรับลูกสาวที่บ้านของภรรยา

แต่ก่อนที่เขาจะก้าวออกประตูบ้าน ผู้หญิงคนหนึ่งก็เดินมาที่หน้าบ้านของเขา — นาบิลมองผู้หญิงคนนั้น เธอใส่เสื้อสีขาวทั้งตัว ดูเหมือนมาจากอนาคต ร่างกายของเธอก็ขาวเหมือนไม่เคยเจอแสงแดด มาพร้อมกับของที่คล้ายๆ กับกระดานแต่เป็นกระดานที่ดูล้ำสมัยมาก

“ไม่ทราบว่า นี่คุณนาบิลใช่ไหมคะ” เธอถามเขา

“ใช่ครับ” นาบิลตอบเธอไป

“คุณอยากกลับไปแก้ไขอดีตของตัวเองใช่ไหมคะ” เธอถามเขาต่อ

คำพูดเธอแทงใจดำนาบิลเป็นยิ่งนัก แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เธอน่าจะเป็นพวกต้มตุ๋นมากกว่า “คุณต้องการอะไรกันแน่ ถ้าอยากได้เงิน ผมคงไม่มีให้หรอกนะ”

“ฉันสามารถทำให้คุณกลับไปแก้ไขอดีตได้นะคะ” เธอบอกกับเขา เหมือนกับผู้ที่ให้ความหวัง “คุณเพียงแค่กดปุ่มบนหน้าจอนี้ แต่มีเงื่อนไขเดียวคือ คุณจะจำอะไรที่เกิดขึ้นตั้งแต่เวลาที่คุณย้อนกลับไปจนถึงตอนนี้ไม่ได้ค่ะ”

นาบิลรู้สึกเหยียดหยามนักต้มตุ๋นคนนี้มาก แต่ก็ไม่ได้ขับใส่ไล่ส่งอะไร คิดแค่ว่า คนพวกนี้น่าสงสาร ถ้ามีอะไรที่ให้ทำก็ลองทำดูโง่ๆ คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก

เขากดปุ่มนั้น


“คุณ ตอนนี้บ้านเราถังแตกแล้ว คุณยังกล้าขโมยเงินค่าเทอมลูกไปกินเหล้าอีกเหรอ”

นาบิลไม่ฟังเธอ

“คุณมันน่ารังเกียจ”

เขาเอาขวดเหล้าทุบลงบนโต๊ะ แล้วเดินเข้าหาภรรยา

แต่ก่อนที่เขาจะทำอะไรรุนแรงเหมือนกับที่เขาเคยทำจนชินนั้น เคติฟาก็โทรเรียกสายฉุกเฉินมาก่อน


หลังจากที่นาบิลเลิกกับภรรยามาได้หนึ่งปี ร่างกายของเขาก็ทรุดโทรมอย่างเห็นได้ชัด

เหตุผลในการหย่าร้างของเขากับเธอ คือการที่เขาไม่เคยเอาใจใส่ความรู้สึกของเธอเลย

เคติฟาเป็นลูกสาวของนาบิล หลังจากที่นาบิลกับภรรยาของเขาหย่าร้างกัน ศาลก็ตัดสินให้อำนาจของการเลี้ยงบุตรตกแก่มารดาแต่เพียงผู้เดียว ส่วนบิดานั้นศาลบังคับให้ร่วมค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตรอย่างเหมาะสม และให้เยี่ยมบุตรีได้เพียงแค่หนึ่งวันในสัปดาห์เท่านั้น

วันที่นาบิลจะเจอลูกสาวของเขาได้นั้น เขากับภรรยาตกลงกันว่าจะเป็นวันอาทิตย์

วันอาทิตย์แล้ว วันอาทิตย์เล่า นาบิลไม่เคยทิ้งอดีตของตัวเองไปได้เลย เคติฟาก็อายุได้เจ็ดปีแล้ว ทุกครั้งที่เขาได้เจอกับลูกสาวของตัวเองนั้นเป็นเหมือนกับวันที่เขาได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ เขาพาลูกสาวของเขาไปเที่ยวด้วยกันสองคนพ่อลูก กินข้าวด้วยกัน ให้ประสบการณ์ชีวิตแก่ลูกของเขา และเขาก็จะพร่ำสอนกับลูกสาวของตัวเองทุกครั้งว่า

“อย่าผิดพลาดแบบพ่อ”

แต่พอลูกสาวของเขากลับไปอยู่กับแม่ ชีวิตของเขาก็จะกลับไปย่ำแย่ลงอีกครั้งหนึ่ง

ภรรยาของเขา ซาฟิรา เป็นแม่ที่เคร่งครัด และต่างจากนาบิลโดยสิ้นเชิง เธอพยายามยัดเยียดให้เคติฟาร่ำเรียนในวิชาการ เธอต้องได้ที่หนึ่งในห้อง เธอต้องถูกกดดันนานัปการ นาบิลรู้เรื่องนี้ดีแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ อย่างน้อยที่สุดเขาก็ได้แค่พาลูกสาวของตัวเองเที่ยวตอนวันอาทิตย์

นาบิลเป็นคนที่เชื่อในพระเจ้า เขาพร่ำขอกับพระเจ้าเสมอว่าเขาอยากจะกลับไปแก้ไขอดีตให้ได้ กลับไปเอาใจใส่ความรู้สึกของภรรยามากกว่านี้ เขาอยากที่จะอยู่อย่างครอบครัวฉันท์พ่อแม่ลูกอีกครั้ง

วันแล้ววันเล่า ในที่สุด เช้าวันอาทิตย์ก็มาถึง

เขาแต่งตัวอย่างดีที่สุด เพื่อที่จะทำให้เคติฟาไม่รู้ว่าเขาขี้เหล้ามากเพียงใด แปรงฟัน อาบน้ำ (ซึ่งปกติไม่เคยทำ) และเตรียมขับรถออกไปรับลูกสาวที่บ้านของภรรยา

แต่ก่อนที่เขาจะก้าวออกประตูบ้าน ผู้หญิงคนหนึ่งก็เดินมาที่หน้าบ้านของเขา — นาบิลมองผู้หญิงคนนั้น เธอใส่เสื้อสีขาวทั้งตัว ดูเหมือนมาจากอนาคต ร่างกายของเธอก็ขาวเหมือนไม่เคยเจอแสงแดด มาพร้อมกับของที่คล้ายๆ กับกระดานแต่เป็นกระดานที่ดูล้ำสมัยมาก

“ไม่ทราบว่า นี่คุณนาบิลใช่ไหมคะ” เธอถามเขา

“ใช่ครับ” นาบิลตอบเธอไป

“คุณอยากกลับไปแก้ไขอดีตของตัวเองใช่ไหมคะ” เธอถามเขาต่อ

คำพูดเธอแทงใจดำนาบิลเป็นยิ่งนัก แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เธอน่าจะเป็นพวกต้มตุ๋นมากกว่า “คุณต้องการอะไรกันแน่ ถ้าอยากได้เงิน ผมคงไม่มีให้หรอกนะ”

“ฉันสามารถทำให้คุณกลับไปแก้ไขอดีตได้นะคะ” เธอบอกกับเขา เหมือนกับผู้ที่ให้ความหวัง “คุณเพียงแค่กดปุ่มบนหน้าจอนี้ แต่มีเงื่อนไขเดียวคือ คุณจะจำอะไรที่เกิดขึ้นตั้งแต่เวลาที่คุณย้อนกลับไปจนถึงตอนนี้ไม่ได้ค่ะ”

นาบิลรู้สึกเหยียดหยามนักต้มตุ๋นคนนี้มาก แต่ก็ไม่ได้ขับใส่ไล่ส่งอะไร คิดแค่ว่า คนพวกนี้น่าสงสาร ถ้ามีอะไรที่ให้ทำก็ลองทำดูโง่ๆ คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก

ก่อนที่เขาจะกดปุ่มนั้น ก็มีผู้ชายชุดดำอีกคนหนึ่งเดินเข้ามาหาผู้หญิงคนนั้น

“เคติฟา หยุด”

เธอหันหน้ากลับไปหาชายคนนั้น

“เธอเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ดี แต่เธอไม่ควรเอาเรื่องย้อนเวลามาใช้พร่ำเพรื่อแบบนี้” เขาบอกกับผู้หญิงชุดขาว “คุณให้พ่อของคุณย้อนเวลาได้ยี่สิบสามแล้ว ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย”

“ฉันก็แค่อยากได้พ่อที่ดีกว่านี้ อับบา ฉันอยากได้วัยเด็กที่ดีกว่านี้” ผู้หญิงชุดขาวตะโกนใส่ผู้ชายชุดดำ

“คุณไม่มีสิทธิทำแบบนี้นะ” ผู้ชายชุดดำตอบ “เราต้องลบความจำพ่อของคุณเดี๋ยวนี้”


นาบิลสลบไปสักพักหนึ่ง ก่อนที่เขาจะตื่นขึ้นมา

เขาสับสนมากว่าทำไมเขาถึงสลบไป แต่ที่แน่ๆ คือ มีกระดาษแผ่นหนึ่งที่ทิ้งเอาไว้อยู่ในมือของเขา เขาอ่านมัน

“จาก พระเจ้า — อดีตเปลี่ยนแปลงไม่ได้ อนาคตก็ยังมาไม่ถึง

มีเพียงปัจจุบันเท่านั้น ที่สร้างอดีต และเปลี่ยนแปลงอนาคต”


เคติฟาเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่อายุหนึ่งร้อยสองปีแล้ว เธอเป็นคนแรกที่ค้นพบการย้อนเวลาที่ใช้เรื่องของเอกภพคู่ขนานเข้ามาเกี่ยวข้อง นอกจากนั้นผู้ร่วมวิจัยของเธอ อับบา ก็เป็นทนายที่สู้กฎหมายว่าด้วยการย้อนเวลา

ถึงแม้ว่าเคติฟาจะรู้ว่าเอกภพที่เธออยู่นั้นจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย แต่เธอก็รู้ว่าอีกเอกภพคู่ขนานอีกแห่งหนึ่ง

แห่งที่เธอไปหาพ่อของเธอ แห่งที่ยี่สิบสี่

แห่งที่มีกระดาษทิ้งเอาไว้ ซึ่งมีลายเซ็นของอับบาพิจารณาแล้วว่าให้ทิ้งไว้ในอดีตได้

แห่งที่มีเคติฟาอีกคนหนึ่ง

คงจะเป็นที่ที่ดีกว่านี้ สำหรับเคติฟา


Nutchanon J's Stories

รวมบทความของนิสิตคณะวิศวะฯ คนหนึ่งในจุฬา ที่เรียนภาคไฟฟ้า

Powered by Bootstrap 4 Github Pages