Table of Content

To the final episode of Better Call Saul.

Table of Content

...

ว่ากันว่า ชีวิตของคนเรามักจะเป็นค่าเฉลี่ยของความคาดหวังของคนรอบตัวเราที่ใกล้ที่สุด อย่างมากสองถึงสามคน

เขา ถูกตราหน้าโดยพี่ชายของเขามาตลอดว่า เป็นพวกโหลยโท่ย ศรีธนญชัย ไม่เอาไหน ใช้กฎหมายในทางผิด ๆ

พยายามกลับตัวกลับใจแล้ว แต่การขัดขวางโดยตลอดของพี่ชายของเขาทำให้เขาต้องงัดความเจ้าเล่ห์มาใช้อยู่ตลอด โดยใช้ให้เพื่อนร่วมงานของเขาซึ่งเป็นหัวหน้า ทำการขัดขวางไม่ให้เขาเข้ามาในบริษัท law firm ของพี่ชายเขา

สุดท้ายด้วยอัตตาที่สูง พี่ชายเขาจึงพูดกระแทกย้ำใจเขาอีกรอบว่า

“ชีวิตนี้แกก็คงทำได้แค่ทำให้คนอื่นเจ็บปวดเท่านั้นแหละ”

หลังจากที่ขัดแข้งขัดขากันเองอย่างยาวนาน พี่ชายของเขาก็ถึงจุดจบ ปลิดชีวิตตัวเองไป ทิ้งร่องรอยบาดแผลในใจเขาตั้งแต่นั้น

ไม่รู้ว่าชีวิตของเขาเลือกเองได้หรือไม่ แต่สุดท้ายเขาก็ยังใช้กฎหมายในทางเจ้าเล่ห์อยู่ ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้สิ่งที่ตนเองต้องการ

ตรงข้ามกับแฟนของเขา ที่ทำหน้าที่อย่างสุจริต เป็นนักกฎหมายให้กับรัฐ ด้วยอัตราเงินเดือนที่น้อยนิด

แต่สุดท้าย ความแค้นของทั้งสองในอดีต ก็ทำให้ทั้งสองร่วมมือกันตัดสินใจกลั่นแกล้งอดีตเพื่อนร่วมงานคนนั้นตอนสมัยที่ทั้งคู่ยังอยู่ law firm ดังกล่าว

แต่เหตุการณ์นั้นดันจบไม่สวย เพื่อนร่วมงานคนนั้นถูกฆ่าตายโดยพวกค้ายา คนที่เขาเคยว่าความคดีให้

แฟนของเขาทำใจไม่ได้ ลาออกจากการทำงานกฎหมายโดยสิ้นเชิง กลายเป็นคนไม่กล้าตัดสินใจอะไร ส่วนตัวเขาเองกลายเป็นทนายให้กับพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ ใช้ความรู้ทางกฎหมายช่วยไกล่เกลี่ยมาหลายปี

เมื่อขบวนการค้ายาถูกเปิดโปง เขาต้องหลบหนี เปลี่ยนตัวตนเป็นอีกคนเพื่อไม่ให้ใครจับได้

แต่เขาก็ยังกลับไปในวิถีทางเดิม คือใช้ความเจ้าเล่ห์ของตัวเองช่วยพวกโจรขโมยของในห้าง

เขาพยายามติดต่อกลับไปหาแฟนของเขา พยายามบอกให้แฟนของเขากลับมาใช้ชีวิตตามปกติเสียที ลืมเรื่องวันวานที่เป็นชงักติดหลังมาอย่างยาวนาน แฟนของเขากลับบอกให้เขาไปมอบตัวซะ เขาจึงบอกแฟนของเขากลับว่า

“ก็ไปมอบตัวก่อนสิ”

หลังจากนั้นไม่นาน แฟนของเขาก็ตัดสินใจสารภาพทุกอย่าง

เขา ซึ่งสุดท้ายก็ถูกจับได้ ก็ยังใช้ความรู้ทางกฎหมายกดโทษของเขาให้เหลือเพียงแค่เจ็ดปี ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วควรจะติดคุกนานตราบเท่าตลอดชีวิต

แต่เมื่อเขาได้รู้ว่าแฟนของเขาสารภาพทุกอย่างแล้ว เขาจึงคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

ความทรงจำย้อนกลับไป เขาเคยถามมือปืนนักฆ่าว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะไปทำอะไร

เขาตอบกลับมาว่า ถ้าย้อนกลับไปได้จะตัดสินใจไม่รับส่วยตอนที่เป็นตำรวจ เพราะเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ชีวิตเขาต้องยุ่งกับเรื่องผิด ๆ มาเรื่อย ๆ

ความจริงตอนแรกเขาจะตอบว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้คงจะกลับไปช่วยลูกชายของเขาไม่ให้ถูกฆ่าตาย แต่เปลี่ยนคำตอบในภายหลังเพราะคิดว่า ถ้าตอนนั้นตัดสินใจไม่รับส่วย เรื่องราวบัดซบทั้งหมดคงไม่เคยมีวันเกิดขึ้น

เขาเคยทำพ่อค้ายาคนนั้น ว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะไปทำอะไร

พ่อค้ายาคนนั้นบอกเขาว่า เรื่องย้อนเวลาเป็นเรื่องไร้สาระ มันผิดกฎข้อที่สองของเทอร์โมไดนามิกส์ ถ้าจะถามเขาคงต้องเปลี่ยนคำถามใหม่ว่า เรื่องราวในอดีตที่ยังเจ็บปวดที่สุดนั้น มันคือเรื่องราวใด

เขาเคยย้อนกลับไปตอนนั้นที่พี่ชายของเขายังมีชีวิตอยู่ ตอนที่เขากับพี่ชายยังไม่ทะเลาะกันอย่างหนัก

พี่ชายของเขาถามเขาเกี่ยวกับเรื่องเคสคดีที่เขารับมาทำ แต่เขาไม่อยากคุยเรื่องนั้นกับพี่ชายเขา สุดท้าย พี่ชายเขาก็แนะนำว่า

เราไม่จำเป็นต้องยึดเส้นทางชีวิตแบบเดิมที่อยากจะเป็นก็ได้ มันไม่ผิดเลยที่เราจะยอมถอยหลัง แล้วเปลี่ยนเส้นทางไปในทางที่ดีกว่า

มันอาจเป็นเพราะว่าพี่ชายของเขาไม่อยากให้เขาทำงานด้านกฎหมายอีกต่อไป แต่หากคิดอีกมุมหนึ่ง ถ้าวันนั้นเขายอมคุยเรื่องการทำเคสคดีนั้นกับพี่ชายของเขา

เขาคงไม่ต้องใช้วิธีการสกปรก ๆ ในวันต่อมา และเขาก็คงจะไม่ต้องพัวพันกับพ่อค้ายาเสพติดมาจนถึงตอนนี้

เพียงแค่ถ้าเขาตัดสินใจคุยแบบจริงจัง เปิดอกกับพี่ชายของเขาในวันนั้น

เวลาผันผ่าน มาจนถึงห้องพิจารณาคดีครั้งสุดท้าย อดีตภรรยาของเขามานั่งฟังคำตัดสินด้วย

เขาตัดสินใจสารภาพทุกอย่าง โทษเพียงแค่เจ็ดปีของเขากลับมาเท่าเดิมคือตลอดชีวิต

เขาเพิ่งเข้าใจมาตลอดว่า สุดท้ายแล้ว คนที่ยังเห็นคุณค่าความดีในใจของเขาอยู่ เหลือเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น

คือเธอคนนั้น

หลังจากที่อยู่ในความอึดอัดมาอย่างยาวนาน เขาก็ได้รับอิสรภาพ แม้ว่าจะเป็นอิสรภาพในเรือนจำแห่งหนึ่งก็ตาม

แต่เป็นอิสรภาพ จากคำตราหน้าที่กัดกินจิตใจ จากพี่ชายของเขามาโดยตลอดชีวิต

จริงอยู่ที่เราย้อนกลับไปอดีตไม่ได้ สิ่งที่แก้ไขได้คือปัจจุบันเท่านั้น

เขา เสียทุกอย่างไปหมดแล้วในชีวิต เหลือเพียงสิ่งเดียวที่ยังมีค่าสำหรับชีวิตของเขาอยู่

คือความเชื่อ ความเชื่อว่าเขายังหลงเหลือตัวตนที่ดีของเขาอยู่ ความเชื่อนั้นจากอดีตภรรยาของเขา

ซึ่งไม่ว่าอย่างไร เขาจะไม่ยอมเสียสิ่งนั้นไปในชีวิตอีก

แม้ว่าจะต้องแลกกับอะไรก็ตาม


เป็นซีรีย์ต่อเนื่องสองซีรีย์ของ Breaking Bad + Better Call Saul สิริรวม 125 ตอนแบบจุก ๆ

ผูกพันแบบ ผูกพันกับทุกตัวละครมาก ๆ ไม่อยากเชื่อว่าทุกตัวละคร แบบ ทุกตัวละครจริง ๆ มีมิติที่ทำให้รู้สึกว่าเราเหมือนรู้จักเขาเหมือนเคยเป็นเพื่อนกันอะไรเทือกนั้นเลย ต้องชื่นชมผู้กำกับทั้งสองคนมาก ๆ แบบ มาก จริง จริง ที่สามารถผูกโยงแล้วพัฒนาตัวละครจากแต่ละตอนไปแต่ละตอนอย่างพิถีพิถันมาก

เสียเวลาชีวิตมากไหม มาก! แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปจะดูอีกไหม ดู!

เป็นเรื่องไม่กี่เรื่องนอกจาก BoJack Horseman กับ Tatami Galaxy ที่นั่งไถ reddit ไปเรื่อย ๆ ว่าบทวิเคราะห์ของตัวละครต่าง ๆ เป็นยังไง

Final episode จบแล้ว เคว้ง เคว้งมาก TT

Nutchanon J's Stories

รวมบทความของนิสิตคณะวิศวะฯ คนหนึ่งในจุฬา ที่เรียนภาคไฟฟ้า

Powered by Bootstrap 4 Github Pages