2022 ปีมหานรก

...

ทำไมทุกอย่างต้องกองกันอยู่ที่ปีนี้

ปี 3 เทอม 2

เป็นเทอมที่ลงไป 21 หน่วยกิต แต่ใน 21 หน่วยกิตนั้นมี lab บังคับของภาคอยู่ 2 ตัวพร้อมกัน โดยที่ lab แต่ละวิชาเขียนไว้ว่า 1 หน่วย แต่ในใจแอบคิดว่ามันหนักกว่านั้น 555 เทอมนั้นบ้างานหนักมาก เอานั่นมาลองทำ เอานี่มาลองทำ เพราะรู้สึกว่าตัวเองรู้น้อยเกินไป อ่านหนังสือหนักหนามาก นอนดึก ตื่นสาย เพราะไม่ต้องเรียนตามตาราง ตามใจตัวเองทุกอย่าง จนเริ่มเห็นผลของการกระทำตัวเองตอนช่วงกลางเทอม คือ เริ่มมีคนทักว่าโทรมลง ทุกวัน ติดต่อกันห้าวัน มีคนทักตั้งแต่เรื่องขอบตา เรื่องสิว จนถึงเรื่องว่าทำไมช่วงนี้ดูเหม่อลอยกว่าปกติ ตอนนั้นคือเริ่มรู้แล้วว่าเพื่อนมาเตือน = แรงมากจริง ๆ จนเพื่อนต้องมาเตือน ตอนนั้นคือเสีย self มาก กลับบ้านมาช่วงสงกรานต์ที่บ้านถามว่าลูกจริงหรอ 555 กว่าจะฟื้นทุกอย่างคืนกลับมาได้ ทั้งรอยสิวและสุขภาพทุกอย่าง คือนับตั้งแต่ตอนสอบปลายภาคจนถึงช่วงมิถุนา จนหลาบเข็ดว่าเทอมหน้าต้องรักษาสุขภาพให้ดีขึ้น ต้องนอนตรงเวลา ช่วงฝึกงานเริ่มกลับมาวิ่งได้ วิ่งได้ที่ 10k เป็นครั้งแรกก็ช่วงฝึกงาน แต่พอเข้าเดือน ก.ค. ก็ต้องกลับมาเคลียร์งานกับเตรียมสอบ toefl อีกรอบ

ปี 4 เทอม 1

เทอมนี้ลงแบบ 22 หน่วยกิต แบบไม่มีตัวไหนที่ดูเบาเลย (มีเบาแค่วิชาเดียวคือวิชาอังกฤษจาก culi มั้ง) ลงแบบกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ ตอนแรกลง 25 หน่วย (ถามจริง อยากกลับไปด่าตัวเองอีกรอบ) วิชาที่ถอนไปคือวิชาที่อาจารย์บอกให้ไปดูเนื้อหาเองที่อาจารย์เคยสอนแล้วในคาบเป็นแค่เก็บคะแนน ตอนสัปดาห์ที่ถอนคือพบว่าตัวเองให้เวลาทั้งสัปดาห์นั้นทำงาน + อ่านวิชาอื่น จนไม่มีเวลาดูคลิปอาจารย์วิชานั้นแล้ว ย้อนนึกกลับไปก็นึกไม่ออกว่าตัวเองเอาเวลาไหนไปทำไร้สาระจนไม่ได้ดูคลิปอาจารย์วิชานั้น เลยตัดสินใจถอนไปเพราะพบว่า ไม่อย่างนั้นสายตัว (ทางเวลา ที่มีแค่ 24 ชั่วโมงต่อวัน) จะขาด

22 หน่วยกิต ที่มีวิชา ป.โท อยู่ 2 ตัวใหญ่ ๆ ตอนนั้นเริ่มเข้าใจว่าถ้าเป็นหน่วยกิต ป.โท ให้คูณ 2 ไปเลย เพราะ workload มันก็จะประมาณนั้นแหละ กิจวัตรของเทอมนี้ตั้งแต่พ้นสัปดาห์แรกไปคือ ตื่นมา ทำงาน เรียน ทำงาน การบ้านที่ค้าง นอน ตื่น เรียน ทำงาน วนไป แทบไม่ได้พัก รวมกับเรื่องเตรียมตัวสมัครเรียนต่อปีหน้าอีกกลายเป็นความฉิบหายทางการศึกษาที่แท้ทรู

เทอมนี้มันเป็นอาการที่ว่า เวลาผ่านไปไม่รู้ตัว เวลาในที่นี้เป็นหน่วยวัน วันนั้นเป็นวันที่ 17 รู้ตัวอีกทีคือเป็นวันที่ 23 แล้ว ระหว่างนั้นคือทำงานเหมือนเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วมาก คือมันไม่ได้ทรมานที่ต้องทำงานนะ แต่มันทรมานที่มันมาไม่จบไม่สิ้นสักที

อาการ burn out จะมาประมาณอาทิตย์ละครั้ง และจะมาแบบไม่ตั้งตัว และควบคุมไม่ได้ รู้ตัวอีกทีคือนั่งดู YouTube ไปแล้วห้าชั่วโมง หรือรู้ตัวอีกทีก็ดูซีรีย์ไปแล้วห้าหกตอน ซึ่งเวลานั้นตอนแรกเป็นเวลาที่กะว่าจะเอาไปเคลียร์งาน อาการ burn out แบบนี้มาทุกอาทิตย์จนเริ่มรู้จังหวะตัวเองว่าควรพัก รู้ว่าทำไมถึงควรมีวัดหยุดอย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งวัน แต่เทอมนี้มันพักไม่ได้เลย เพราะงานและสอบจะทำตาม deadline ไม่ทัน

เทอมนี้ไปสุดมาก สุดทุกทางที่ไม่ได้คิดว่าจะต้องทำ ปกติอ่านสอบกลางภาคหรือปลายภาคที่เก็บคะแนนเยอะ ๆ ก็จะเตรียมเวลาไว้อ่านประมาณสองวันต่อวิชา เทอมนี้เป็นเทอมแรกที่บีบให้อ่านเหลือครึ่งวันต่อวิชาแล้วไปสอบเลย การบ้านคือไม่ดองเลย ดองไม่ได้

เรื่องสุขภาพที่ทำได้สำเร็จอย่างเดียวในเทอมนี้คือ ไม่ปล่อยให้ร่างกายโทรมเหมือนเทอมที่แล้วได้ คือสิวไม่เห่อ แต่เรื่องขอบตาก็มาเหมือนเดิม แถมนอนน้อย นอนไม่เป็นเวลามากกว่าเทอมที่แล้ว โอกาสออกไปวิ่งน้อยมาก น้ำหนักขึ้น ฯลฯ

โดยส่วนตัว ทั้งเทอมที่แล้วกับเทอมนี้จัดเวลาตัวเองไม่ได้เลย ใช้เวลาเหมือนคนจนทางเวลา เคยมีคนเปรียบเทียบในงานวิจัยว่าคนจนมันจะใช้เงินอย่างไม่สมเหตุสมผลมากกว่าคนรวย เพราะคนจนอยู่แบบวันต่อวัน การลงทุนใช้เงินเผื่อวันข้างหน้าเป็นความเสี่ยงว่าบางวันจะไม่มีกิน พอเอามาเปรียบเทียบกับเราในเทอมนี้คือโคตรใช่ เพราะแทนที่เราจะยอมหยุดทำงานบ้างแล้วออกไปพักผ่อนหรือออกกำลังกาย เรากลับกลัวว่าถ้าเราไม่ได้ทำงานในตอนนี้แล้วเราจะทำงานไม่ทัน deadline ซึ่งทำให้เราถูกบังคับให้ทำงานแบบ suboptimal เพราะข้อบีบบังคับทางเวลา แต่สุดท้ายเราก็ burn out ในบางช่วงแบบที่ควบคุมไม่ได้อยู่ดี ซึ่งก็เกิดจากการที่ไม่ได้พักผ่อนตามอัตราส่วนเวลาที่เหมาะ เหมือนเป็นความจนทางด้านเวลา ที่ทำให้เวลาถูกใช้อย่างไม่มีคุณภาพ เพราะไม่ยอมลงทุนทางเวลา (พักผ่อน/ออกกำลัง/งานอดิเรก) เพื่อวันข้างหน้าเลย เพราะจนเวลา

สรุป

  • ปีนี้ได้เรียนเกือบทุกอย่างที่อยากเรียน เป็น orgasm ทางการเรียนที่เก็บไว้ตั้งแต่เข้าปีหนึ่ง ว่าในที่สุดฉันก็ได้มาเรียนสิ่งนี้เสียที
  • ปีนี้ได้ทำหลายอย่างที่อยากทำ ทั้งกิจกรรมและอื่น ๆ ขอบคุณทุกคนมากที่ให้โอกาส อันนี้เดี๋ยวเก็บไว้เขียนแยกอีกโพสต์
  • ปีนี้รับรู้ถึงอายุ สุขะ พลังที่ไม่จีรัง การนอนน้อยที่ทำได้อย่างสบายในช่วง ม.ปลาย แล้วไม่ส่งผลเหี้ยอะไรกับสุขภาพตัวเองเลยเป็นเรื่องที่ไม่เกิดขึ้นแล้วตอนนี้
  • ค้นพบว่า อย่าทำตัวให้จน (ทางด้านเวลา) พยายามรวยเวลาเข้าไว้ จะได้ใช้เวลาแบบคนรวย (เวลา)
  • ช่วงปีใหม่นี้ทุกคนไปเที่ยวกัน แต่เราขอนอนอยู่บ้าน เรามีความสุขมาก จริง ๆ ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน ปกติช่วงธันวาจะมีอะไรให้ทำตลอด แต่เทอมนี้ได้พัก เป็นสิ่งที่ต้องการมากสำหรับปลายปีนี้
  • เทอมนี้ได้ขนาดนี้คืองงมาก เกินคาดที่สุด แต่ไม่เอาแล้ว ไม่เอาหนักขนาดนี้แล้วนะ

Nutchanon J's Stories

รวมบทความของนิสิตคณะวิศวะฯ คนหนึ่งในจุฬา ที่เรียนภาคไฟฟ้า

Powered by Bootstrap 4 Github Pages