รีวิว อยู่ไต้หวัน 5 เดือน
เริ่มเลอ
A1 เรื่องของกิน
เรื่องของกิน ที่นี่ของกินอุดมสมบูรณ์กว่าฝั่งประเทศตะวันตก แต่น้อยกว่าไทย โรงอาหารที่มหาวิทยาลัยจะเปิดเป็นเวลา คือสิบโมงถึงบ่ายสองครึ่ง ละเปิดอีกทีสี่โมงครึ่งถึงทุ่มครึ่ง ส่วนร้านอาหารด้านนอกส่วนใหญ่จะเปิดหลังสิบเอ็ดโมงละปิดตอนสามทุ่ม สี่ทุ่มก็เริ่มหาของกินยากมาก ๆ แล้ว เทียบตอนที่อยู่จุฬาคือเปรียบมิได้ หิวตอนตีสามยังไปร้านข้าวมันไก่กินจุก ๆ นั่งนอกร้านเฮียหมูมีความสุขกินลาบนัว ๆ เอาเป็นว่าอยู่ที่ไต้หวันต้องวางแผนเรื่องการกินดี ๆ มากกว่าตอนอยู่ไทย
A2 ราคาของกิน
ราคาของกินที่นี่แพงกว่าไทยทุกอย่างประมาณสองเท่า เช่น นมสด กับผลไม้ เรื่องนมสดที่แพงได้ยินว่าเพราะไต้หวันร้อน วัวผลิตนมได้น้อยกว่าปกติ ผนวกกับประเทศปกป้องคนเลี้ยงโคนมของประเทศตัวเองโดยการไม่นำเข้านมสดมาเพิ่ม (ประเทศเขาดูเข้าใจคนของเขาเองเนอะ) เป็นสาเหตุที่นมสดไต้หวันติดอันดับแพงเป็นอันดับสองของโลก แต่อร่อย แต่ก็ทำให้พวกของที่ทำจากนมสดมันแพงตามไปด้วย เช่นพวกขนมปัง โยเกิร์ต คือแพงกว่าที่ไทยแบบตะโกน ส่วนผลไม้ที่นี่คือแพงแบบสัมผัสได้ ละก็รู้สึกว่าหาร้านขายผลไม้ยากกว่าที่ไทย ที่หั่นมาให้เลยนี่คือหายากมาก ๆ เข้าใจว่าที่ผลไม้ที่นี่แพงเพราะต้องนำเข้า ละสัมผัสได้อีกว่าผลไม้ส่วนใหญ่ไม่ค่อยสด สรุปคือ ไทยชนะไต้หวันเรื่องนี้
A3 เรื่องภาษาอังกฤษ
เรื่องภาษาอังกฤษ ไม่รู้ว่าที่ทุกคนพูดจีนกับเราเพราะเราแม่งหน้าเหมือนคนจีนหรือเปล่า แต่คนที่นี่พูดภาษาอังกฤษได้น้อยมาก ถ้าไปร้านค้าละถามว่าพูดภาษาอังกฤษได้ไหม จะได้ภาษาจีนพร้อมภาษามือมาแทน โดนส่วนตัวจะถูกทุกคนรัวจีนใส่ตลอดเวลา ซึ่งไม่รู้ว่าจะเป็นข้อเสียหรือข้อดีดี เพราะเอาจริงว่ามันทำให้ภาษาจีนของเราพัฒนาขึ้นแบบ 300 เปอร์เซ็นต์ แต่ข้อเสียคือบางทีก็ฟังไม่ออก เมื่อเทียบกับชาวต่างชาติที่หน้าเหมือนคนต่างชาติเขาจะยื่นเมนูภาษาอังกฤษให้เลย ส่วนเราก็คือต้องถามเค้าอีกรอบว่ามีไหม 555 ตอนนี้ที่ประสบความสำเร็จอย่างหนึ่งคือเริ่มมีคนไต้หวันมาบอกว่า “華語不錯” ก็เริ่มรู้สึกดีใจว่าเริ่มพูดได้ละ 555
A4 ความเป็นระเบียบ
ความเป็นระเบียบของคนที่นี่มากกว่าคนไทย แต่น้อยกว่าญี่ปุ่น
A5 การเดินทาง
เรื่องความสะดวกสบายของการเดินทาง ขอรีวิวเฉพาะภาคเหนือของไต้หวันเพราะเคยเที่ยวแค่นี้ 555 รู้สึกว่าชีวิตดีกว่าที่ไทยมากแบบ 500 เปอร์เซ็นต์ รถไฟฟ้าที่นี่เป็นระบบเดียวกันหมด บัสก็ไปถึงหลายที่มาก ๆ จักรยานสาธารณะก็มี ราคาการเดินทางถ้าเทียบกับที่ไทยคือถูกกว่าประมาณ 4 เท่าในความเห็นส่วนตัว เพราะเมืองมันเดินได้เดินดี ไม่ร้อน ฝุ่นไม่เยอะ อากาศไม่คันตัว จักรยานส่วนตัวคือจะไปที่ไหนก็ได้ จะไปวิ่งริมแม่น้ำ 10K ก็แค่ปั่นจักรยานไปห้านาทีถึง เอาว่า เมื่อถัวเฉลี่ยกับค่ากินที่นี่ที่แพงกว่าก็น่าจะถูกกว่าค่าครองชีพที่ไทย
A6 พื้นที่สาธารณะ
ละก็ต่อมาที่เรื่องของพื้นที่สาธารณะ คือที่นี่สวนเยอะมาก ๆ คิดอะไรไม่ออกก็ไปริมแม่น้ำ แม่น้ำตลอดสายคือเป็นสวนสาธารณะหมด ทางจักรยาน ทางวิ่ง ยาวสุดลูกหูลูกตา ปั่นกันให้ขาเดี้ยงกันไปข้างหนึ่ง ยิมสาธารณะก็มีทุกมุมเมืองให้ไปออกกำลังกาย บางที่ก็เปิด 24 ชั่วโมงทั้งที่เป็นยิมของรัฐบาล
A7 ราคาอสังหา
ข้อเสียอย่างหนึ่งของที่นี่คือบ้านแพง คอนโดแพง แต่เงินเดือนถูก (เมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว) ทุกคนบ่นกันมาก แต่ไม่รู้ว่าจริงแท้เพียงใดเพราะตอนนี้ยังเรียนอยู่ 555
A8 อากาศ
อากาศที่นี่เปลี่ยนแปลงบ่อยแบบน่ากลัว อาทิตย์ที่แล้วหิมะตก วันนี้แดดออกเหมือนโกรธคน ยิ่งเป็นไทเปคืออากาศยิ่งทะมึน ขนาดคนไถหนาน (เมืองทางใต้ของไต้หวัน) ยังบ่น เอาเป็นว่าเรื่องนี้ขอให้เสมอกับไทย เพราะประเทศไทยแม่งร้อน ร้อนชิบหาย แถมฝุ่นเยอะอีก อยู่กรุงเทพคันตัวมาก ๆ คันคอด้วย อยู่ที่นี่สบาย อากาศบริสุทธิ์ ออกไปไหนไม่ต้องมานั่งเช็คค่าฝุ่น จบ
A9 …
เหล้าที่นี่ถูกมาก ถูกจนงง ใครรักการจิบเหล้า เบียร์ ไวน์ ควรมาที่แห่งนี้
เรื่องอื่นไม่น่ามีอะไร แต่ถ้ามีอะไรจะเพิ่มอีกที ใครที่คิดจะย้ายประเทศแนะนำว่าลองมาเรียนภาษาที่นี่ก่อนสักหนึ่งปี ดูว่าชอบไหม แต่ส่วนตัวคิดว่าอยู่ไต้หวันตอนนี้ชีวิตเริ่มลงตัวอย่างน่าประหลาด ใครที่ผิดหวังจากคำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ฝุ่นในกรุงเทพแม่งคันคอชิบหาย ในยุครัฐบาลที่ดูแล้วก็ไม่ได้ต่างอะไรจากยุคลุงตู่ ไถวันออล์เวยส์ฮวนอิ๋งหนี่เมินนะคะ สวัสดี จ้ายเจี้ยน